วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
วิธีแก้เมาเครื่องบิน
คุณด้วยรึเปล่าที่เดินทางบินไกลไปต่างแดนทีไร ได้ของแถมเป็นอาการคลื่นไส้ อาเจียน มึนๆ คล้ายอากาศไม่พอทุกทีสิน่า ไม่ต้องทนรำคาญกับอาการเจ็ตแล็กอีกต่อไป เพราะในหนังสือ "สวนหลังบ้าน" ของ คุณติ้ง-พลโทหญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ เธอแนะวิธีแก้อาการเมาเครื่องบินเอาไว้ ง่ายๆ ตัดไฟแต่ต้นลม โดยการ...
- ขยับร่างกายให้เลือดลมเดิน บริหารอวัยวะไม่ว่าจะหมุนคอ ไหล่ ขา เท้า เอาเป็นว่าขยับทุกส่วนเท่าที่จะทำได้
- ถ้ายังรู้สึกไม่ดีขึ้น คราวนี้ลองทำสมาธิ หายใจเข้า-ออกช้าๆ ใครจะทำมือ ชี่กง (หายใจเข้ามือกว้าง หายใจออกมือแคบ) พร้อมนวดตัวเอง โดยการทุบเบาๆ ไปตามแขน ขาด้านนอก ด้านใน คอไหล่ไปจนถึงศีรษะด้วยก็ได้ ไม่ว่ากัน
- ที่สำคัญ ในเวลาเครื่องบินลดระดับเครื่องจะลง อย่าเผลอหลับ !!! ให้กลืนน้ำลายบ่อยๆ อาจจะอมลูกอม อมบ๊วย อมมะขาม แต่ถ้าจะให้เก๋ก็ลองอมมะขามป้อม นอกจากชุ่มคอนานแล้ว ยังปลอดน้ำตาลอีกต่างหาก
- เมื่อถึงปลายทางต่างแดน การได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ก็จะทำให้อาการคลี่คลายขึ้น
- วิธีสุดท้ายคือวิ่งให้หัวใจสูบฉีดเต็มที่ และให้เหงื่อออกไปเลย...รับรองว่า วิธีนี้เป็นไม้เด็ดแก้เจ็ตแล็กที่ได้ผลชะงัดนัก
ขอบคุณข้อมูลจาก www. goholidaynow. com
7 ขั้นตอน วิธีขึ้นเครื่องบินครั้งแรกต้องทําอย่างไร
การเดินทางด้วยเครื่องบินสำหรับผู้ไม่เคยขึ้นเครื่องนั้น สามารถสร้างความประหม่างกๆเงิ่นๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ สาเหตุหลักๆ นั้นก็คงเป็นเพราะว่าเราเกินความตื่นเต้น ไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร หรือทำตามขั้นตอนแบบไหน เพราะการขึ้นเครื่องนั้นดูเหมือนจะยุ่งยากกว่าการเดินทางแบบอื่น ดังนั้นวันนี้เรารวบรวมเอาขั้นตอนง่ายๆ มาแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังจะเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นครั้งแรกค่ะ
1. ในกรณีที่เป็นการเดินทางไปต่างประเทศ ให้จัดเตรียมเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นเช่น พาสปอร์ต ใส่กระเป๋าให้พร้อมรวมไปถึงการเช็คขนาดกระเป๋าตามที่สายการบินกำหนดว่าไม่ควรเกินเท่านั้นเท่านี้ รวมถึงศึกษาข้อห้ามในการนำของบางอย่างขึ้นเครื่องไปด้วย
2. ควรเดินทางมาที่สนามบินก่อนเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นให้ไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบินของเราค่ะ ซึ่งสามารถดูได้จากป้ายต่างๆ ที่ติดไว้ ตั้งแต่ A-Z แต่ต้องดูดีๆ นะคะเพราะบางครั้งที่เราไปถึงเคาน์เตอร์ยังไม่เปิดทำการก็มี
3. เมื่อเช็คอินเสร็จจะนั่งพักรอเพื่อน (ในกรณีที่ไปกันหลายคน) หรือจะเข้าไปที่ด่านตรวจพาสปอร์ตเลยก็ได้ ซึ่งแนะนำว่าให้เข้าไปข้างในเลยจะดีกว่า เพราะเราจะได้มีเวลาเดินดูข้างในด้วยว่าเป็นแบบไหนอะไรยังไง รวมถึงต้องเช็ค Gate และเวลาขึ้นเครื่องให้ดีด้วยนะคะ ก็ดูจากในตั๋วนั่นแหละค่ะ ที่แนะนำให้เช็คดูก็เพราะเราจะได้กำหนดจุดได้อย่างแม่นยำ ไม่ต้องฉุกละหุกวิ่งหาเมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ ค่ะ
4. เมื่อขึ้นเครื่องแล้วให้เช็คดูที่นั่งของเราแล้วกรุณานั่งตามหมายเลข ส่วนกระเป๋าให้สอดขึ้นไว้บนช่องเหนือหัวเรา แต่ถ้าเป็นพวกกระเป๋าเอกสารให้ถือติดตัวไว้ค่ะ มันจะมีช่องสำหรับใส่กระเป๋าพวกนี้อยู่บริเวณใต้ที่นั่งของเรานั่นเอง
5. เมื่อถึงที่หมาย หากเป็นต่างประเทศ แอร์โฮสเตสจะมาแจกใบ Landing Card ซึ่งเป็นเอกสารสำหรับคนที่ไปยังประเทศนั้นๆเป็นครั้งแรกจำเป็นต้องกรอกค่ะ เอกสารนี้ต้องเก็บไว้พร้อมกับพาสปอร์ตสำหรับให้ ด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศนั้นตรวจ จากนั้นให้เราเช็คดูของ ดูเอกสารต่างๆ เพื่อเตรียมตัวเข้าด่านตรวจนั่นเองค่ะ
6. จากนั้นเมื่อลงเครื่องให้เราเดินตามคนอื่นๆ ไปเลยค่ะ เพราะที่หมายนั้นคือที่ด่านตรวจที่เดียวกัน หรือ Immigration แต่ถ้าหากจำหน้าคนที่มาจากเครื่องไม่ได้แนะนำให้เดินเข้าไปยังช่องสำหรับคนต่างชาติได้เลยค่ะ
7. เมื่อตรวจผ่านแล้ว ให้ไปรอเอากระเป๋าสัมภาระของเราที่สายพาน ซึ่งจะมีป้ายบอกว่าให้เราไปรับได้ที่สายพานไหน เมื่อได้รับของก็เสร็จสิ้นกระบวนการการเดินทางด้วยเครื่องบินแล้วค่ะ
จะเห็นได้ว่า หลักๆนั้นความยุ่งยากจะไปอยู่ที่การตรวจเอกสารมากกว่า แต่การโดยสารนั้นก็เหมือนกับการเดินทางแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถทัวร์ หรือรถไฟ ซึ่งถ้าหากเราสงสัยหรือติดขัดตรงไหนก็สามารถสอบถามได้ที่เจ้าหน้าที่ หรือโอเปอเรเตอร์ได้ตลอดเวลาค่ะ ขอให้มีความสุขกับการเดินทางนะคะ
ขอบคุณ ข้อมูลจาก www.เกร็ดความรู้.com / 7-ขั้นตอน-วิธีขึ้นเครื่องบินครั้งแรกต้องทําอย่างไร
วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
วันลอยกระทง เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาวไทย ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ตามปฏิทินจันทรคติล้านนา มักจะตกอยู่ในราวเดือนพฤศจิกายน ตามปฏิทินสุริยคติบางปีเทศกาลลอยกระทงก็จะมาตรงกับเดือนตุลาคมด้วย เช่นปีพ.ศ. 2544วันลอยกระทงปีนั้นตรงกับวันที่31 ตุลาคมและจะมาตรงกันอีกครั้งในปีพ.ศ. 2563ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา บางหลักฐานเชื่อว่าเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที และบางหลักฐานก็ว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระมหาสาวก สำหรับประเทศไทยประเพณีลอยกระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง หรือ แหล่งน้ำต่าง ๆ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป นอกจากนี้บางประเทศก็มีเทศกาลลอยกระทงด้วย เช่น ประเทศลาวมักจะลอยกระทงในวันออกพรรษา(ขึ้น15ค่ำ เดือน11)ในงานไหลเฮือไฟของลาว ประเทศกัมพูชา มีการลอยกระทง 2 ครั้ง คือลอยกระทงของหลวงกลางเดือน 11 ส่วนราษฎรทำกระทงเล็กและบรรจุอาหารไปด้วย ส่วนกลางเดือน 12 จะมีกระทงของหลวงเป็นกระทงใหญ่ ราษฎรจะไม่ได้ทำและกระทงนี้จะมีอาหารบรรจุลงไปด้วย โดยมีคติว่าเพื่อส่งส่วนบุญไปให้เปรต เทศกาลน้ำจะมีการเฉลิมฉลองด้วยการแข่งเรือยาว การแสดงพุลดอกไม้ไฟ จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่วันขึ้น 14 ค่ำ 15 ค่ำ จนถึงแรม 1 ค่ำ เดือนพฤศจิกายน ประเทศเมียนมาร์ ในวันลอยกระทง ผู้คนจะพากันทำ "กระทง" ตกแต่งเป็นรูปคล้ายดอกบัวบาน ปักธูปเทียน และนิยมตัดเล็บ เส้นผม หรือใส่เหรียญกษาปณ์ลงไปในกระทง แล้วนำไปลอยในสายน้ำ (ในพื้นที่ติดทะเล ก็นิยมลอยกระทงริมฝั่งทะเล) เชื่อว่าเป็นการลอยเคราะห์ไป นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการลอยกระทง เป็นการบูชาและขอขมาพระแม่คงคา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)